1.กบฏเป็นการกระทำด้วยมูลเหตุชักจูงใจในข้อใด
ก.เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนในแผ่นดิน ข.เพื่อให้เกิดความไม่สงบในแผ่นดิน
ค.เพื่อให้ประชาชนละเมิดกฎหมาย ง.เพื่อแบ่งแยกราชอาณาจักร
2.การชักชวนให้ผู้อื่นร่วมกันหยุดงาน หรือร่วมกันปิดงานงดจ้างผู้กระทำการชักชวนอาจมีความผิดได้ ถ้ากระทำเพื่อความมุ่งหมายในข้อใด
ก.เพื่อบีบบังคับรัฐบาล ข.เพื่อประท้วงรัฐบาล
ค.เพื่อต่อรองกับกรมแรงงาน ง.ถูกทั้งข้อ ก และ ข
3.ข้อใดมิใช่มูลเหตุชักจูงใจหรือเจตนาพิเศษของความผิดฐานก่อการร้ายตามมาตรา 135/1
ก.เพื่อก่อการร้าย ข.เพื่อขู่เข็ญรัฐบาล
ค.เพื่อสร้างความปั่นป่วนโดยให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน ง.เพื่อขู่เข็ญหรือบังคับรัฐบาลระหว่างประเทศ
4.ข้อใดมิใช่องค์ประกอบความผิดอันมีการกระทำที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายตามมาตรา 135/2
ก.กระทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงแก่ระบบการขนส่งสาธารณะ ข.สะสมกำลังพล
ค.รับการฝึกการก่อการร้าย ง.สมคบกันเพื่อก่อการร้าย
จ.รู้ว่ามีผู้ก่อการร้ายแล้วกระทำการใดอันเป็นการปกปิดไว้
5.ข้อใดมิใช่องค์ประกอบความผิดอันมีการกระทำที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายตามมาตรา 135/2
ก.สะสมอาวุธ ข.จัดหารหรือรวบรวมทรัพย์สิน ค.ให้การฝึกการก่อการร้าย
ง.เป็นสมาชิกของคณะบุคคลที่มีการกระทำอันเป็นการก่อการร้าย
จ.ยุยงให้ประชาชนให้เข้ามีส่วนร่วมในการก่อการร้าย
6.เจ้าพนักงานละทิ้งงาน หรือกระทำการอย่างใดๆเพื่อให้งานหยุดชะงักหรือเสียหายนั้น จะมีความผิดกฎหมาย หรือร่วมกระทำความผิดตั้งแต่กี่คนขึ้นไป
ก.สองคนขึ้นไป ข.สามคนขึ้นไป
ค.ห้าคนขึ้นไป ง.สิบคนขึ้นไป
7.ตำรวจคนหนึ่งจับกุมนางแดงฐานเป็นเจ้ามือสลากกินรวบ แล้วเข้าไปกระทำมิดีมิร้ายต่อนางสาวแดงในทางชู้สาว ตำรวจผู้นั้นจะมีความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 หรือไม่
ก.ไม่ผิดเพราะไม่มีมูลเหตุจูงใจเพื่อทำให้ผู้อื่นเสียหาย ข.ไม่ผิดเพราะการกระทำดังกล่าวไม่ได้อยู่ในหน้าที่ตำรวจ
ค.ผิดเพราะเป็นการกระทำโดยเจตนา ง.ผิดเพราะเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบในฐานเป็นเจ้าพนักงาน
8.นายสมบัติเป็นพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย มีหน้าที่รับส่งถุงไปรษณีย์ อันเป็นกิจการส่วนหนึ่งของการรถไฟ นายสมบัติได้เปิดถุงไปรษณีย์ออกและนำจดหมายในถุงนั้นไปเผาเสีย ดังนี้นายสมบัติจะมีความผิดตามมาตรา 163 หรือไม่เพราะเหตุใด
ก.ไม่ผิดเพราะเป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการได้ ข.ไม่ผิด เพราะไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ในการไปรษณีย์
ค.ผิดเพราะตนเป็นเจ้าพนักงาน ง.ผิดเพราะกระทำการให้ประชนเดือดร้อน
9.ตำรวจคนหนึ่งจับกุมนางแดงฐานเป็นเจ้ามือสลากกินรวบ แล้วเข้าไปกระทำมิดีมิร้ายต่อนางสาวแดงในทางชู้สาว ตำรวจผู้นั้นจะมีความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 หรือไม่
ก.ไม่ผิดเพราะไม่มีมูลเหตุจูงใจเพื่อทำให้ผู้อื่นเสียหาย ข.ไม่ผิดเพราะการกระทำดังกล่าวไม่ได้อยู่ในหน้าที่ตำรวจ
ค.ผิดเพราะเป็นการกระทำโดยเจตนา ง.ผิดเพราะเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบในฐานเป็นเจ้าพนักงาน
10.การที่จะเป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จนั้นจะต้องมีสาระสำคัญอย่างไร
ก.เป็นการแจ้งความเท็จเกี่ยวกับความผิดทางอาญาและทางแพ่ง ข.เป็นการแจ้งความเท็จเกี่ยวกับความผิดทางอาญา
ค.เป็นการแจ้งความเท็จเกี่ยวกับความผิดทางแพ่งด้วย ง.ถูกทั้งข้อ ก และ ค
11.สมศักดิ์เป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนแห่งหนึ่ง เสนอต่อพนักงานอัยการว่า หากสั่งไม่ฟ้องคดีที่น้องชายสมศักดิ์ตกเป็นผู้ต้องหา จะรับบุตรของพนักงานอัยการคนนั้นเข้าเรียนในโรงเรียนที่สมศักดิ์เป็นอาจารย์ใหญ่ ดังนี้ สมศักดิ์จะมีความผิดฐานให้สินบนเจ้าพนักงานในการยุติธรรมหรือไม่
ก.สมศักดิ์ไม่มีความผิดเพราะการรับบุตรพนักงานอัยการเข้าโรงเรียนมิใช่ทรัพย์สิน
ข.ไม่มีความผิดเพราะสินบนจำกัดเฉพาะทรัพย์สินเท่านั้น
ค.สมศักดิ์มีความผิดเพราะการรับว่าจะให้บุตรของพนักงานอัยการเข้าโรงเรียนเป็นการรับว่าจะให้ทรัพย์สินอื่นใดแล้ว
ง.สมศักดิ์มีความผิด เพราะขอให้ประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานในการยุติธรรมแล้ว
12.การที่มีผู้ส่งเสียงเอะอะ ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล จะเป็นความผิดฐานขัดขวางการพิจารณาของศาลหรือไม่
ก.ไม่เป็นความผิดเพราะการส่งเสียงเอะอะไม่ใช่การขัดขวางการพิจารณาคดีของศาล
ข.มีความผิดเพราะการส่งเสียงเอะอะเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล
ค.มีความผิดเพราะการส่งเสียงเอะอะไม่อาจทำให้ศาลพิจารณาคดีต่อไปได้โดยสะดวก
ง.อาจเป็นความผิดหากการส่งเสียงเอะอะนั้น ทำให้ศาลไม่อาจพิจารณาคดีต่อไปได้ จนต้องเลื่อนการพิจารณาไป
13.ก่อนเจ้าพนักงานบังคับคดีจะไปยึดทรัพย์ลูกหนี้ตามคำพิพากษา เจ้าพนักงานบังคับคดีอีกคนหนึ่งบอกให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาย้ายทรัพย์สินออกไปจากบ้านดังนี้ เจ้าพนักงานบังคับคดีจะมีความผิดทางอาญาหรือไม่
ก.มีความผิดเพราะเจ้าพนักงานบังคับคดีมีหน้าที่ปฎิบัติการให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาล การบอกให้ลูกหนี้ยักย้ายทรัพย์ไป จึงเป็นการป้องกันหรือขัดขวางมิให้การเป็นไปตามคำพิพากษาหรือคำสั่งศาล
ข.มีความผิดหากการยักย้ายทรัพย์สิน เป็นเหตุให้เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่อาจยึดทรัพย์สินนั้นได้
ค.ไม่มีความผิดเพราะไม่มีกฎหมายเอาความผิดต่อการกระทำดังกล่าว
ง.ไม่มีความผิดทางอาญาแต่พนักงานบังคับคดีจะต้องรับผิดชอบทางแพ่ง
14.ผู้ต้องหาไม่ยอมมาตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวน ซึ่งเรียกมาเพื่อให้ถ้อยคำในฐานะพยาน โดยไม่มีข้อแก้ตัวอันควร ดังนี้ ผู้ต้องหาจะมีความผิดฐานขัดขืนคำบังคับของพนักงานสอบสวนหรือไม่
ก.ไม่มีความผิดเพราะหมายเรียกของพนักงานสอบสวนไม่ใช่คำบังคับตามกฏหมาย
ข.ไม่มีความผิดเพราะผู้ต้องหาจะมาให้การหรือไม่มาให้การก็ชอบที่จะกระทำได้
ค.จะเรียกผู้ต้องหามาในฐานะเป็นพยานหรือในฐานะผู้ต้องหา ผู้ต้องหาไม่มีความผิดเพราะหากผู้ต้องหาไม่มาตามหมายเรียกโดยไม่มีข้อแก้ตัวอันควรตามปวิ.อ. ม.66 บัญญัติทางแก้ไว้แล้วคือ ออกหมายจับ
ง.เป็นการเรียกผู้ต้องหามาให้การในฐานะพยานการที่ผู้ต้องหาไม่ยอมมาพบพนักงานสอบสวนโดยไม่มีข้อแก้ตัวอันควร จึงเป็นความผิดฐานขัดขืนคำบังคับของพนักงานสอบสวน
15.ข้อใดไม่เป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จ
ก.แจ้งความเท็จเกี่ยวกับความผิดลหุโทษ ข.แจ้งความเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญา
ค.แจ้งความเท็จเกี่ยวกับความรับผิดทางแพ่ง ง.แจ้งความเท็จเกี่ยวกับความผิดที่มีโทษทางอาญา
16.ข้อใดที่ผู้กระทำความผิดฐานเบิกความเท็จอาจไม่ต้องรับโทษ
ก.ลุแก่โทษและกลับแจ้งความจริงต่อศาลก่อนศาลมีคำพิพากษา ข.รับสารภาพต่อศาล
ค.ลุแก่โทษชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหาย ง.ลุแก่โทษและกลับแจ้งความจริงต่อศาลก่อนจบคำเบิกความ
17.ข้อที่ไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาคดี
ก.กล่าวว่าผู้พิพากษาไม่ให้ความเป็นธรรม ข.ดูหมิ่นศาลขณะไปเดินเผชิญสืบ
ค.กล่าวในอุทาหรณ์โดยสุจริตว่า ศาลตัดสินไม่ต้องด้วยความยุติธรรม
ง.กล่าวว่าผู้พิพากษาพิจารณาคดีโดยไม่ยึดหลักกฎหมายและความยุติธรรมไม่เป็นที่พึ่งของประชาชน
18.กรณีใดที่ไม่ถือว่าเป็นการป้องกันหรือขัดขวางมิให้การเป็นไปตามคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลตามมาตรา 203
ก.ตำรวจมีหน้าที่จับจำเลยตามหมายจับของศาล กลับบอกให้จำเลยหลบหนี
ข.เจ้าพนักงานบังคับคดีบอกให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษายักย้ายทรัพย์สิน เพื่อมิให้ถูกยึดหรืออายัด
ค.เจ้าพนักงานที่ดินไม่จดทะเบียนโอนที่ดินตามคำสั่งของศาล
ง.ญาติของลูกหนี้ตามคำพิพากษายักย้ายทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ทำให้เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่อาจรวบรวมทรัพย์สินเพื่อขายทอดตลาดได้
จ.เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ยอมไปยึดทรัพย์ตามที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาขอเนื่องจากลูกหนี้ตามคำพิพากษาเป็นญาติของตน
19.การกระทำอันเป็นการเหยียดหยามศาสนา จะต้องกระทำต่อสิ่งใด
ก.วัตถุอันเป็นที่เคารพในทางศาสนา ข.วัตถุหรือสถานที่อันเป็นที่เคารพในทางศาสนา
ค.ผู้ปฏิบัติศาสนานั้นๆ เช่น พระสงฆ์ หรือบาทหลวง ง.วัตถุหรือสถานที่หรือต่อตัวผู้ปฏิบัติศาสนาอื่นๆ
20.การกระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาท ผู้กระทำต้องรับผิดกรณีใด
ก.ในกรณีที่น่าจะเป็นอันตรายแก่ตัวเองหรือทรัพย์ของตัวเอง ข.ในกรณีที่เป็นอันตรายแก่ตัวเอง หรือทรัพย์ของตัวเอง
ค.ในกรณีที่น่าจะเป็นอันตรายต่อทรัพย์ของผู้อื่น ง.ในกรณีที่ทำให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหาย
21.การกระทำในข้อใดที่ผู้กระทำไม่มีความผิดทางอาญา
ก.แก้เชือกผูกนั่งร้านก่อสร้าง ให้นั่งร้านไม่สามารถรับน้ำหนักคนได้
ข.ถอดเหล็กยึดรางรถไฟออกจากหมอนให้รางรถไฟหลวม
ค.เอารถยนต์ที่ห้ามล้อชำรุดใช้การไม่ได้มาวิ่งรับจ้างขนส่งคนโดยสาร
ง.เอากิ่งไม้และก้อนอิฐวางขวางทางรถไฟ ให้รถไฟทับ
จ.เอากัญชาจำนวนมากใส่อาหารให้คนกินติดใจ
22.ข้อใดไมใช่ ความหมายของคำว่าเอกสาร ตาม ปอ.มาตรา 1(7)
ก.เลขหมายที่พานท้ายปืน, ป้ายทะเบียนรถยนต์ ข.คำขวัญติดท้ายรถสิบล้อ
ค.จดหมายที่บุตรเขียนขอเงินบิดา ง.หนังสือขอผัดชำระหนี้
23.หนังสือเดินทางตามปอ.มาตรา 1(15) ไม่หมายความถึงข้อใด
ก.หนังสือเดินทางเปล่าและใบผ่านแดนชั่วคราวเปล่าที่ยังไม่ได้กรอกข้อมูลเกี่ยวกับผู้มีสิทธิถือ
ข.แผ่นปะตรวจลงตราสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ
ค.ใบผ่านแดนชั่วคราว ง.ถูกทั้ง ก.และ ข.
24.สัญญาณควันของลูกเสือติดต่อขอความช่วยเหลือจากพวกลูกเสือด้วยกัน ไม่เป็นเอกสารตาม ปอ.เพราะเหตุใด
ก.ไม่เป็นหลักฐานแห่งความหมายได้ ข.ไม่รู้ความหมายแน่ชัด
ค.ไม่ทำให้ปรากฎด้วยตัวอักษร ง.ไม่อาจถือว่าเป็นสัญญาณสากลที่คนรู้ทั่วไป
25.ทนายความลงชื่อรับรองลายมือชื่อผู้แต่งทนายความว่าเป็นลายมือชื่อที่แท้จริง ถ้าปรากฎว่าลายมือชื่อนั้นไม่เป็นลายมือชื่อของผู้แต่งทนายความตามที่รับรองไว้ ทนายความนั้นไม่มีความผิดตามปอ.เพราะเหตุใด
ก.เพิ่งรู้ความจริงภายหลังที่ส่งเสนอศาลเล็กน้อย ข.เพิ่งรู้ความจริงขณะลงชื่อรับรองนั่นเอง
ค.ไม่มีเจตนาให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ง.ถูกทุกข้อ
26.รหัสหมายเลขบัตรชุดเติมเงินโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีหัสแท่ง(barcode) รหัสของหมายเลขชุดนี้อยู่ในความหมายของบัตรอิเลคทรอนิกส์ตามปอ.มาตรา 1 (4) หรือไม่เพราะเหตุใด
ก.เป็นเพราะหมายเลขชุดออกในรูปของเอกสาร
ข.เป็นเพราะรหัสหมายเลขชุดออกในรูปเอกสารและมีรหัสแท่งด้วย
ค.เป็นเพราะรหัสหมายเลขชุดใช้กับโทรศัพท์เคลื่อนที่อันเป็นเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์
ง.ไม่เป็นเพราะรหัสหมายเลขชุดจะต้องไม่มีการออกเอกสารหรือวัตถุอื่นใดและไม่มีรหัสแท่งด้วย
27.ส้มเอาหนังสือเดินทางของฟ้าพี่สาวฝาแฝดของตนไปใช้เดินทางท่องเที่ยวประเทศเกาหลี โดยฟ้าไม่ทราบเรื่อง ดังนี้ ส้มมีความผิดเกี่ยวกับหนังสือเดินทางหรือไม่อย่างไร
ก.ส้มมีความผิดฐานปลอมหนังสือเดินทางด้วยการปลอมเป็นฟ้า
ข.ส้มมีความผิดฐานนำหนังสือเดินทางของผู้อื่นออกนอกราชอาณาจักร
ค.ส้มมีความผิดฐานใช้หนังสือเดินทางของผู้อื่นโดยมิชอบ
ง.ถูกทุกข้อ
28.แสงมีหนี้สินล้นพ้นตัว ทำให้คิดมากจึงไปขอยืมปืนจากศิริ ศิริจึงให้ยืมปืนกระบอกนั้นไปฆ่าตัวตายสำเร็จตามความประสงค์กรณีเช่นนี้ศิริมีความผิดเพราะยุยงช่วยเหลือให้แสงฆ่าตัวตายหรือไม่ เพราะเหตุใด
ก.มีความผิดเพราะไม่ห้ามปรามแต่กลับให้ยืมปืนไป ข.ไม่มีความผิดเพราะแสงเป็นผู้มายืมปืนเอง
ค.ไม่มีความผิดเพราะไม่ใช่เป็นบุคคลตามที่ระบุไว้ในมาตรา 293 ง.ไม่มีความผิดเพราะการฆ่าตนเองไม่เป็นความผิด
29.เพราะเหตุที่มีการแย่งมรดกกันในครอบครัว ฉายจึงฆ่าลูกของช้อยที่คลอดออกมาจากครรภ์ของนางช้อยโดยยังไม่ได้ตัดสายรก กรณีเช่นนี้ฉายมีความผิดอย่างไรหรือไม่
ก.มีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ข.มีความผิดฐานทำให้แท้งลูก
ค.มีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ง.ไม่มีความผิดใดๆเลย
30.ร.ต.อ.แจ่มไม่พอใจที่พลหทหารจ๋องซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาแต่งกายไม่เรียบร้อย จึงลงโทษพลทหารจ๋องด้วยการให้วิ่งรอบสนาม 20 รอบ พลทหารจ๋องเป็นคนสุขภาพไม่ดีเพราะเป็นโรคหัวใจซึ่งความจริงข้อนี้ ร.ต.อ.แจ่มไม่ทราบ พลทหารจ๋องวิ่งหนื่อยมากหัวใจจึงหยุดเต้นถึงแก่ความตาย กรณีเช่นนี้ ร.ต.อ.แจ่มมีความผิดฐานใดหรือไม่
ก.ฆ่าคนตายโดยเจตนา ข.ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
ค.ทำให้คนตายโดยประมาท ง.ไม่มีความผิดใดๆ เพราะเป็นอุบัติเหตุ
31.การทำให้ผู้อื่นฆ่าตัวตายนั้นจะเป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาในกรณีใด
ก.ผู้กระทำต้องกระทำโดยการปฏิบัติอันทารุณโหดร้ายจนผู้กระทำต้องฆ่าตัวตาย
ข.ผู้กระทำต้องเป็นผู้ลงมือกระทำด้วยตนเอง จะเป็นการกระทำทางตรง หรือทางอ้อมก็ตาม
ค.ผู้ถูกกระทำจะต้องถึงแก่ความตาย เพราะการฆ่าตัวตายเอง
ง.ผู้กระทำไม่ได้เข้าช่วยเหลือห้ามปรามมิให้ผู้นั้นฆ่าตัวตาย
32.แสงมีหนี้สินล้นพ้นตัว ทำให้คิดมากจึงไปขอยืมปืนจากศิริ ศิริจึงให้ยืมปืนกระบอกนั้นไปฆ่าตัวตายสำเร็จตามความประสงค์กรณีเช่นนี้ศิริมีความผิดเพราะยุยงช่วยเหลือให้แสงฆ่าตัวตายหรือไม่ เพราะเหตุใด
ก.มีความผิดเพราะไม่ห้ามปรามแต่กลับให้ยืมปืนไป ข.ไม่มีความผิดเพราะแสงเป็นผู้มีความรู้สึกผิดชอบสมบูรณ์
ค.ไม่มีความผิดเพราะแสงเป็นผู้มายืมปืนเอง ง.ไม่มีความผิดเพราะการฆ่าตนเองไม่เป็นความผิด
33.กรณีใดถือว่าเป็นอันตรายสาหัส
ก.เจ็บป่วยด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวัน ข.ป่วยเจ็บจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้ตั้งแต่ยี่สิบวันขึ้นไป
ค.ทุพพลภาพหรือป่วยเจ็บเกินกว่ายี่สิบวัน ง.ถูกทั้งข้อ ก.และ ค .
34.ข้อใดถือว่าเป็นอันตรายแก่กาย
ก.ชก เตะ และใช้ไม้ดุ้นฟืนทำร้ายมีบาดแผลขอบตาขวาฟกช้ำ แขนขวาขัดยอกรักษา 5 วันหาย
ข.ใช้มีดดาบแทงทำร้ายถูกชายโครงซ้ายทีรอยช้ำแดงโตกลมครึ่งเซนติเมตร รักษาประมาณ 5 วันหาย
ค.ตีด้วยไม้ตะพด มีบาดแผลที่หน้าผากบวมช้ำโลหิตซึม
ง.ใช้เท้าเตะ และใช้มือตบ ผู้เสียหายรับบาดแผลฟกช้ำ รักษา 5 วันหาย
35.ผู้กระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายกรณีใดในข้อต่อไปนี้ที่ไม่ต้องรับโทษหนักขึ้น
ก.ทำร้ายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ข.ทำร้ายผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานในการที่เจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่
ค.ทำร้ายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ง.ทำร้ายในเวลากลางคืน
36.เหลืองกับขาวหยอกล้อเล่นกัน เหลืองแกล้งเตะขาว ขาวจึงจับขาเหลืองยกขึ้น แล้วผลักลงกับพื้น ปรากฎว่าเหลืองแขนหัก ใช้แขนข้างนั้นตามปกติไม่ได้ ยี่สิบวันจึงหายเป็นปกติ ดังนี้ขาวจะมีความผิดฐานใดหรือไม่
ก.ขาวมีความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้เหลืองได้รับอันตรายสาหัส
ข.ขาวมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายธรรมดา
ค.ขาวไม่มีความผิดฐานใด เพราะเป็นการหยอกล้อกันเล่นเท่านั้น
ง.ขาวมีความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้เหลืองได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ ซึ่งเป็นความผิดลหุโทษ
37.การกระทำใดดังต่อไปนี้ที่ผู้กระทำมีความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น
ก.ร่วมประเวณีกับเด็กโดยเด็กนั้นยินยอม
ข.ชายร่วมประเวณีกับหญิง โดยทำให้หญิงหลงเชื่อว่าชายเป็นสามีของหญิง
ค.เอาปากกาใส่เข้าไปในช่องปากของผู้อื่นเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำ
ง.เอาตะเกียบแหย่เข้าไปทางทวารหนัก เพื่อสนองความใคร่ของผู้ถูกกระทำ
38.การเป็นธุระจัดหาล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิงหรือเด็ก เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น แม้ชายหรือหญิง หรือเด็กนั้นจะยินยอมจะเป็นความผิดเฉพาะเมื่อได้กระทำต่อบุคคลใด
ก.เด็กอายุไม่เกินสิบสามปี ข.เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี
ค.เด็กชายหรือหญิงไม่จำกัดอายุ ง.เด็กชายหรือหญิงซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ
39.การทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปีไว้ ณ ที่ใด เพื่อให้เด็กพ้นไปเสียจากตน จะเป็นความผิดในกรณีใด
ก.ได้กระทำในลักษณะที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล ข.ได้กระทำโดยประการที่น่าจะเป็นอันตรายแก่เด็กนั้น
ค.เด็กได้รับอันตรายสาหัสเพราะการทอดทิ้งนั้น ง.ถูกทั้งข้อ กและข.
40.การที่ผู้มีหน้าที่ตามกฎหมาย ต้องดูแลผู้ซึ่งพึ่งตนเองไม่ได้ ทอดทิ้งผู้ซึ่งพึ่งตนเองไม่ได้ จะเป็นความผิดในกรณีใด
ก.ได้กระทำในลักษณะที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตของผู้ถูกทอดทิ้ง
ข.ได้กระทำโดยประการที่ทำให้ผู้ถูกทอดทิ้งปราศจากผู้ดูแล
ค.ได้กระทำโดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้ถูกทอดทิ้ง
ง.ผู้ถูกทอดทิ้งได้รับอันตรายสาหัสเพราะการทอดทิ้งนั้น
41.ดำได้ว่าจ้างนายเขียวอายุ 19 ปี มารับจ้างค้าประเวณีกับลูกค้าที่มาเที่ยวไนท์คลับของตน ดำมีความผิดฐานเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายเพื่อสนองความใคร่ผู้อื่นตามมาตรา 282 หรือไม่เพราะเหตุใด
ก.ผิดเพราะนายเขียวยังไม่บรรลุนิติภาวะ ข.ผิดเพราะกฎหมายไม่ได้จำกัดอายุของชายไว้
ค.ไม่ผิดเพราะนายเขียวค้าประเวณีไม่ได้ ง.ไม่ผิดเพราะนายเขียวมีอายุเกินสิบแปดปีแล้ว
42.นางสาวแดง ได้ลักลอบได้เสียกับดำจนตั้งครรภ์ จึงขอให้ดำช่วยทำให้ตนแท้งลูก ดำจึงได้นำยามาให้นางสาวแดงรับประทาน นางสาวแดงได้คลอดทารกออกมาก่อนกำหนด ทารกมีชีวิตอยู่ได้ 7 วัน จึงถึงแก่ความตาย ดำจะมีความผิดและต้องรับโทษฐานทำให้แท้งลูกหรือไม่ อย่างไร
ก.ผิด และต้องรับโทษในความผิดฐานพยายามทำให้หญิงแท้งลูกโดยหญิงยินยอม
ข.ผิดฐานพยายามทำให้หญิงแท้งลูก แต่ไม่ต้องรับโทษ
ค.ไม่ผิดเพราะนางสาวแดงยอมให้นายดำกระทำ
ง.ไม่ผิดเพราะนางสาวแดงไม่แท้งลูก
43.นางแดงซึ่งตั้งครรภ์ได้เดินลื่นตกบันไดสลบไป จึงถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล นายแพทย์ขาวเห็นว่านางแดงเลือดออกมาก ถ้าไม่ทำแท้งอาจเป็นเหตุให้นางแดงถึงแก่ความตายได้ จึงได้ทำแท้งให้นางแดงในขณะที่นางแดงสลบอยู่ ขาวจะมีความผิดและต้องรับโทษฐานทำให้หญิงแท้งลูกหรือไม่
ก.ไม่ผิดเพราะจำเป็นต้องกระทำเพื่อช่วยชีวิตนางแดง
ข.ไม่ผิดเพราะถือว่านางแดงยอมให้ทำแท้งโดยปริยาย
ค.ผิดแต่ไม่ต้องรับโทษเพราะเป็นการกระทำความผิดด้วยความจำเป็น
ง.ผิด และต้องรับผิดฐานทำให้หญิงแท้ลูกเพราะหญิงไม่ยินยอม
44.นางดำคลอดบุตรแล้ว ทิ้งบุตรอายุ 1 เดือนนั้นไว้กับสามี แล้วหนีตามชู้ไปนางดำมีความผิดหรือไม่อย่างไร
ก.ผิดฐานทอดทิ้งเด็ก ข.ผิดฐานทอดทิ้งผู้ซึ่งพึ่งตนเองไม่ได้
ค.ไม่ผิดฐานทอดทิ้งเด็กเพราะไม่ปรากฏว่าเด็กได้รับอันตรายแก่กาย ง.ไม่ผิด กฎหมายอาญาใด
45.ทอดทิ้งผู้ซึ่งพึ่งตนเองไม่ได้โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตได้แก่ข้อใด
ก.ทอดทิ้งในลักษณะที่น่าจะเป็นอันตรายแก่ชีวิตผู้นั้นแต่ไม่แน่ว่าจะต้องตาย ข.ทอดทิ้งโดยย่อมเล็งเห็นผลว่าต้องตาย
ค.ทอดทิ้งเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายซึ่งเป็นผลธรรมดา ง.ทอดทิ้งโดยประสงค์ให้ผู้ซึ่งพาตนเองไม่ได้ถึงแก่ความตาย
46.สมศักดิ์ใช้ปืนขู่บังคับทนงให้ยกบุตรสาวให้ตน ทนงบอกว่าตกลงแต่ให้มารับในวันรุ่งขึ้น แล้วทนงจึงได้ไปแจ้งตำรวจจับสมศักดิ์ สมศักดิ์มีความผิดฐานใดหรือไม่
ก.ผิดฐานพยามยามทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ เพราะทนงยังไม่ยกบุตรสาวให้ไปจริงๆ
ข.ผิดฐานทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพเพราะทนงตกลงยกสาวให้ตามที่ข่มขืนใจแล้ว
ค.ไม่ผิดฐานใดเพราะยังไม่ได้ยกบุตรสาวให้ไป
ง.ผิดชิงทรัพย์
47.เด็กชายฮาร์ดอายุ13ปี หนีบิดาของตนไปซ่อนอยู่ที่ศาลเจ้าร้างแห่งหนึ่งกลางป่า แดงไปพบที่ซ่อนจึงขู่ถามจนทราบว่าเด็กชายฮาร์ดเป็นบุตรใครอยู่ที่ใดแล้วส่งจดหมายเรียกค่าไถ่จากบิดาของเด็กชายฮาร์ด ดังนี้แดงมีความผิดฐานหรือไม่
ก.ไม่มีความผิดตามมาตรา 313 ฐานเรียกค่าไถ่ ข.มีความผิดเพราะเอาตัวเด็กไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่
ค.มีความผิดเพราะหน่วงเหนี่ยวเด็กเพื่อได้มาซึ่งค่าไถ่ ง.ถูกทั้งข้อ ข.และ ค.
48.กฎหมายได้กำหนดอายุเด็กที่จะถูกพรากไว้เท่าใดผู้พรากจึงจะมีความผิดฐานพรากเด็ก
ก.ไม่เกินเก้าปี ค.ไม่เกินสิบห้าปี
ข.ไม่เกินสิบปี ง.ไม่เกินสิบสามปี
49.สมเดชต้องการที่จะเดินทางไปเยี่ยมลูกที่ประเทศอังกฤษ แต่สมเดชติดต่อไม่ถูก สมพงษ์รู้เข้าจึงไปหลอกสมเดชว่าจะติดต่อสมเดชให้ได้พบลูกที่ประเทศอังกฤษ แต่สมเดชต้องจ่ายเงินให้สมพงษ์ สมเดชตกลงจ่ายเงินให้สมพงษ์ 100000 บาท สมพงษ์จึงจัดการส่งสมเดชไปลงที่ประเทศเกาหลี และทิ้งให้เป็นคนอนาถา ไม่มีค่าเดินทางกลับ ดังนี้สมพงษ์จะมีความผิดตามมาตรา 320 หรือไม่ เพราะเหตุใด
ก.ผิดเพราะใช้อุบายหลอกลวง ข.ผิดเพราะเจตนาละทิ้งให้สมเดชเป็นคนอนาถา
ค.ผิดเพราะส่งไปประเทศอื่นที่สมเดชไม่ต้องการ ง.ไม่ผิดเพราะสมเดชสมัครใจไปนอกราชอาณาจักรอยู่แล้ว
50.กฏหมายกำหนดช่วงอายุของผู้เยาว์ที่จะถูกพรากไว้เท่าใด ผู้พรากผู้เยาว์จึงจะมีความผิดฐานพรากผู้เยาว์
ก.อายุกว่า 13 แต่ไม่เกิน 15 ข.อายุกว่า 10 แต่ไม่เกิน 15
ค.อายุกว่า 15 แต่ไม่เกิน 18 ง.ไม่เกิน 18
51.การเปิดจดหมายของผู้อื่น เพื่อล่วงรู้ข้อความนั้นกฎหมายกำหนดว่าจะเป็นความผิดเมื่อใด
ก.เมื่อผู้อ่านได้รู้ข้อความในจดหมาย ข.เมื่อเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดแล้ว
ค.เมื่อได้เปิดผนึกแล้ว ง.เมื่อการเปิดผนึกนั้นน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด
52.การใส่ความผู้ตายต่อบุคคลที่สาม ต้องน่าจะเป็นเหตุให้ผู้ใดเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง จึงจะถือว่าผู้ใส่ความนั้นผิดฐานหมิ่นประมาท
ก.ผู้ตาย ข.คู่สมรสของผู้ตาย ค.หลานของผู้ตาย ง.เหลนของผู้ตาย
53.การเปิดผนึกจดหมายของผู้อื่น ต้องกระทำโดยมีมูลเหตุจูงใจในข้อใด ผู้กระทำจึงจะมีความผิดตามมาตรา 322
ก.เพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดเสียหาย ข.เพื่อนำข้อความในจดหมายออกเปิดเผย
ค.เพื่อนำจดหมายนั้นไปทำลาย ง.เพื่อเอาจดหมายของผู้อื่นไปโดยทุจริต
54.อาทิตย์เอาจดหมายที่ปิดผนึกของจันทร์ไปให้อังคารเปิดอ่านให้ฟัง แต่อังคารอ่านไม่ออก เพราะเป็นภาษาญี่ปุ่น ดังนี้อาทิตย์และอังคารมีความผิดหรือไม่อย่างไร
ก.อาทิตย์ผิดฐานเอาจดหมายไปเพื่อล่วงรู้ข้อความ และอังคารผิดฐานเปิดผนึกเพื่อล่วงรู้ข้อความ
ข.อังคารผิดฐานเอาจดหมายเพื่อล่วงรู้ข้อความ แต่อาทิตย์ไม่ผิด
ค.อาทิตย์และอังคารไม่มีความผิด
ง.อาทิตย์ผิดฐานเอาจดหมายไปเพื่อล่วงรู้ข้อความแต่อังคารไม่ผิด
55.อ้อยกับตั๊มไปเดินเล่นที่สวนการค้าแห่งหนึ่ง เห็นนางสาวมดซึ่งแต่งกายด้วยเครื่องประดับแพรวพราวเดินผ่านมา ตั้มจึงถามอ้อยว่าใครนะสวยดี อ้อยตอบว่าชื่อมด นิสัยไม่ดีมีความรู้สึกต่ำเป็นหนี้สินเขาท่วมตัว แต่ชอบแต่งตัวอวดมั่งอวดมี อ้อยจะมีความผิดหรือไม่เพราะเหตุใด
ก.ไม่ผิดเพราะไม่ได้เป็นการดูหมิ่นนางสาวมดซึ่งหน้า
ข.ไม่ผิดเพราะถ้อยคำที่กล่าวไม่ทำให้ผู้ฟังเข้าใจถึงความชั่วร้ายอันจะทำให้นางสาวมดเสียชื่อเสียงแต่อย่างใด
ค.ไม่ผิดเพราะกล่าวตามที่ตั้งความถาม
ง.ผิดเพราะเป็นการใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม
56.ข้อใดเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
ก.กรุงให้ไกรเช่ารถยนต์แล้วแอบไปเอารถยนต์คืนมา
ข.กริงจำนำแหวนไว้กับแกรง แล้วแอบไปเอาคืนมา
ค.กลับขายกระบือโดยไม่ได้โอนตั๋วพิมพ์รูปพรรณแล้วแอบไปเอากลับคืนมาเสีย
ง.กรุ้มขายวิทยุให้กริ่งไป แต่กริ่มไม่ชำระราคาให้ตามกำหนดจึงไปยึดคืนมา
57.โหน่งกับเหน่งซื้อรถจักรยานสามล้อมารับจ้างส่งผู้โดยสาร โดยโหน่งเป็นผู้ครอบครองรถแต่เพียงผู้เดียว ต่อมาโหน่งนำรถนำรถนั้นไปขายเสีย โหน่งมีความผิดฐานใดหรือไม่
ก.ไม่มีความผิด ข.ผิดฐานลักทรัพย์
ค.ผิดฐานยักยอก ง.ผิดสัญญาทางแพ่งเท่านั้น
58.ผึ่งลักรถจักรยานยนต์ของผายที่จอดอยู่ที่ลานวัดเวลากลางวัน โดยใช้กุญแจปลอมไขเอาโซ่ที่ล่ามรถไว้กับต้นไม้ออกไป ผึ่งมีความผิดฐานใด
ก.มาตรา 335( ข.มาตรา 335(9) ค.มาตรา 336 ทวิ ง.มาตรา 335(1)
59.กรอบเข้าไปลักทรัพย์จากในบ้านของกราบในเวลากลางคืน ขณะที่กราบไม่อยู่ โดยเข้าทางประตูที่กราบลืมเปิดไว้
พอดีกราบกลับมาเห็น กรอบจึงรีบหนีโดยลงทางหน้าต่าง แล้วขึ้นรถจักรยานยนต์ที่เกรียบจอดซุ่มรออยู่หลบหนีไป
กรอบมีความผิดมาตราใด
ก.มาตรา 335(3) ( ข.มาตรา 335(1) (
และมาตรา 336 ทวิ
ค.มาตรา 336 ทวิ ง.มาตรา 335(1)
60.การกระทำต่อไปนี้ ข้อใดไม่เป็นการใช้กำลังประทุษร้าย
ก.แดงกระตุกสร้อยคอของดำ สร้อยคอขาดติดมือแดงไป ข.แดงหลอกดำให้เดินไปตกหลุมที่ขุดไว้
ค.แดงแย่งกระเป๋าที่ดำถืออยู่ โดยแกะมือของดำและดึงกระเป๋ามาได้ ง.ถูกทั้งข้อ ก.และ ข.
61.ความผิดฐานกรรโชกข้อใดต่อไปนี้ ข้อใดผู้กระทำผิดต้องรับโทษมากที่สุด
ก.เฮงเขียนจดหมายถึงเก่งเจ้าของสวนยางให้จ่ายค่าคุ้มครองแก่อั้งยี่สมาคมเล็บเหล็กเดือนละ 100000 บาท มิฉะนั้นจะอยู่ไม่เป็นสุข เก่งมีความกลัวจึงยอมให้เงินตามคำขู่
ข.เฮงโทรศัพท์ไปขู่มิ่งว่าถ้าไม่ยอมให้เงิน 50000 บาท จะไม่สามารถมีชีวิตอยู่เห็นพระอาทิตย์ในวันรุ่งขึ้นได้ มิ่งมีความกลัวจึงยอมให้เงิน
ค.เฮงส่งจดหมายอิเลคทรอนิค ถึงสัน ให้นำเงินมาให้ 10000 บาท มิฉะนั้นจะเผาบ้านของสัน
ง.ถูกทุกข้อ
62.การชิงทรัพย์ที่กระทำต่อทรัพย์ต่อไปนี้ ข้อใดที่ผู้กระทำจะต้องรับโทษมากที่สุด
ก.เครื่องบิน ข.กระบือชาวนา
ค.รถยนต์ ง.พระพุทธรูปในวิหารวัดเบญจมบพิตร
63.ความผิดฐานปล้นทรัพย์ข้อใดต่อไปนี้ที่ผู้กระทำต้องรับโทษมากที่สุด
ก.ปล้นทรัพย์ที่คนร้ายใช้ปืนยิงเจ้าทรัพย์บาดเจ็บสาหัส ข.ปล้นธนาคาร
ค.ปล้นวัด ง.ปล้นสถานีรถไฟ
64.การกระทำต่อไปนี้ ข้อใดไม่เป็นการใช้กำลังประทุษร้าย
ก.แดงกระชากสร้อยคอที่ดำสวมอยู่ สร้อยไม่ขาดแต่คอดำเป็นแผลโลหิตไหล
ข.แดงอาศัยจังหวะที่ดำเผลอ ดึงกระเป๋าที่ดำถือมาได้
ค.แดงใช้มือผลักอกดำเซไป ง.แดงสะกดจิตดำให้ถอดสายสร้อยให้
65.ความผิดฐานชิงทรัพย์โดยเอากระบือของชาวนาไป ผู้กระทำต้องรับโทษสูงกว่าความผิดในข้อใด
ก.ความผิดฐานชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ ข.ความผิดฐานชิงทรัพย์ซึ่งเป็นพระพุทธรูป
ค.ความผิดฐานชิงทรัพย์ซึ่งเป็นรถยนต์ ง.ความผิดฐานชิงทรัพย์ที่กระทำในวัด
66.ข้อเท็จจริงต่อไปนี้ ข้อใดมีความผิดฐานฉ้อโกง
ก.หมึกจะไปลักของในโกดัง พบหมอกคนเฝ้าโกดังจึงบอกหมอกว่า เจ้าของให้มาเอาของในโกดัง หมอกจึงปล่อยให้หมึกเข้าไปเอาของ หมึกเอาของไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัว
ข.หมึกหลอกแดงให้ฉีกสัญญากู้ซึ่งขาวเป็นหนี้ทิ้ง
ค.หมึกหลอกให้เขียวถอนคำร้องทุกข์
ง.หมึกหลอกขายที่ดินให้โดยบอกว่าเดือนหน้าทางราชการจะตัดถนนผ่าน ความจริงไม่เคยทราบเลยว่าทางการจะตัดถนนผ่านหรือไม่ ฉ่ำเชื่อจึงซื้อที่ดินของหมึก
67.จิตมีภูมิลำเนาอยู่ที่กาฬสินธ์ ใช้อุบายหลอกลวงเจนเจ้าของร้านขายรถว่าตนชื่อขวบ เศรษฐีใหญ่แห่งอุบล เจนหลงเชื่อจึงยอมทำสัญญาขายรถยนต์ให้ 1 คัน โดยยอมให้ชำระเงินตอนสิ้นเดือนและส่งมอบรถให้ไป ดังนั้น จิตมีความผิดฐานใดหรือไม่
ก.ลักทรัพย์ ข.ยักยอก ค.ไม่มีความผิด ง.ฉ้อโกง
68.สนฟ้องโสเป็นคดีแพ่ง โสจึงไปร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ต.ชาญว่า สนฉ้อโกงตน สนเรียกโสมาพบแล้วบอกว่าสนได้ยื่นคำร้องถอนฟ้องคดีแพ่งแล้ว ขอให้โสถอนคำร้องทุกข์ เรื่องฉ้อโกงจะได้เลิกแล้วต่อกัน ความจริงสนไม่ได้ถอนฟ้องคดีแพ่ง ดังนี้สนจะมีความผิดฐานใดหรือไม่
ก.แจ้งความเท็จ ข.เบิกความเท็จ
ค.ไม่มีความผิด ง.ถูกทั้งข้อ ก.และ ข.
69.สมเกียรติทำแหวนตกหายที่ข้างถนน โดยไม่รู้ว่าทำตกที่ไหน ต่อมาอีก 2 วัน ชูเชิดเก็บแหวนนี้ได้เลยเอาไว้เสียเอง ชูเชิดจะมีความผิดฐานใดหรือไม่
ก.ไม่มีความผิด ข.ลักทรัพย์
ค.ยักยอก ง.ยักยอกทรัพย์สินหาย
70.ข้อใดเป็นความผิดฐานโกงเจ้าหนี้
ก.แดงจำนำแหวนไว้กับขาว แล้วแดงไปลักแหวนนั้นคืนมา
ข.แดงกู้ยืมเงินขาวโดยเอาที่ดินจำนองไว้ ต่อมาแดงขายที่ดินนั้นให้ดำ
ค.แดงกู้ยืมเงินขาวโดยเอาโฉนดไปให้ขาวยึดไว้ต่อมาแดงไปลักโฉนดคืนมา
ง.แดงหลอกให้ขาวซึ่งเป็นผู้รับจำนองไถ่ถอนจำนองให้
71.ต่อไปนี้ข้อใดเป็นความผิดฐานฉ้อโกง
ก.สนหลอกให้ใสฟ้องคดีล้มละลาย ข.สนหลอกให้ใสถอนคำร้องทุกข์
ค.สนหลอกให้ใสยื่นฟ้องเป็นคดีแพ่ง ง.สนหลอกให้ใสฉีกทำลายสัญญาเช่า
72.ทรัพย์ข้อใดถือว่ายังเป็นของโจรอยู่
ก.ลักอิฐและทรายล้างมาทำเป็นรูปปั้น ข.ลักนาฬิกาแล้วไปแลกกับโทรศัพท์มือถือ
ค.ลักท่อนซุงมาเลื่อยเป็นไม้กระดาน ง.ลักท่อนซุงมาและมาแกะสลักเป็นรูปนางอัปสร
73.การฆ่าสัตว์ที่ลักมาเพื่อเอาเนื้อ ถือเป็นลักษณะการกระทำในข้อใด
ก.ช่วยซ่อนเร้น ข.ช่วยจำหน่าย ค.ช่วยพาเอาไป ง.ซื้อ
74.การกระทำต่อทรัพย์ในข้อใดถือว่าเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์
ก.ทรัพย์ที่ผู้อื่นปลูกสร้างหรือทำไว้ในที่สาธารณะ ข.ที่ดินมือเปล่า
ค.ทรัพย์ที่โจทก์จำเลยต่างโต้แย้งกรรมสิทธิ์กันอยู่ ง.ถูกทุกข้อ
75.มีนาตัดกิ่งไม่ของเมษาที่รุกล้ำเข้าไปเหนือที่ดินของมีนาโดยมิได้บอกกล่าวเมษาก่อน เช่นนี้ถือได้ว่า
ก.มีนาไม่มีเจตนาทำให้เสียทรัพย์ ข.มีนามีเจตนาประสงค์ต่อผล
ค.มีนามีความผิดแต่ไม่ต้องรับโทษ ง.มีนามีเจตนาย่อมเล็งเห็นผล
76.การเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ตามข้อใดถือเป็นความผิดฐานบุกรุก
ก.เข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ข.เข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น
ค.เข้าไปเกี่ยวข้องกับสิทธิอันเกี่ยวกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ ง.ถูกทุกข้อ
77.ข้อใดถือว่าเป็นการกระทำอันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์
ก.ใส่กุญแจห้องมิให้ผู้เช่าเข้าห้องได้ ข.เอื้อมมือไปเด็ดดอกไม้ในที่ดินผู้อื่น
ค.ชะโงกหน้าเข้าไปบ้านของผู้อื่น ง.ถูกทุกข้อ
78.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ ของโจร
ก.ทรัพย์ที่ตกเป็นของโจรแล้วจะต้องเป็นของโจรตลอดไป
ข.หากเอาทรัพย์ของโจรไปแลกกับทรัพย์อื่นทรัพย์ที่ได้มาจากการแลกเปลี่ยนมิใช่ของโจร
ค.แม้ทรัพย์ที่เป็นของโจรได้เปลี่ยนสภาพไปเป็นทรัพย์อย่างอื่นก็ยังคงเป็นของโจร
ง.ทรัพย์ที่เป็นของโจรย่อมหมดสภาพของโจร เมื่อเจ้าของนั้นได้ทรัพย์คืน
79.การช่วยคนร้ายเรียกค่าไถ่จากเจ้าทรัพย์ถือเป็นลักษณะการกระทำในข้อใด
ก.ช่วยซ่อนเร้น ข.ช่วยจำหน่าย ค.ช่วยพาเอาไปเสีย ง.รับจำนำ
80.การทำให้สูญหายอาจเข้าลักษณะการกระทำใดที่เป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์
ก.ทำให้เสียหาย ข.ทำลาย ค.เอาไปซ่อนเร้น ง.ทำให้เสื่อมค่า
81.การนำเสื้อเชิ้ตของผู้อื่นที่ยังไม่ได้ใช้มาใส่ แล้วซักรีดนำไปคืนเจ้าของ ถือเป็นการกระทำในข้อใด
ก.ทำให้เสียหาย ข.ทำลาย ค.ทำให้ไร้ประโยชน์ ง.ทำให้เสื่อมค่า
82.การเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ตามข้อใด ถือเป็นความผิดฐานบุกรุก
ก.การเข้าไปในที่ดินมือเปล่าของผู้อื่น ข.การเข้าไปไถดินในหนองน้ำสาธารณะ
ค.การเข้าไปไถดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ง.การเข้าไปในที่ดินที่ยังโต้แย้งกันอยู่
83.กรณีตามข้อใดที่ถือการเข้าไปซ่อนตัวอยู่หรือไม่ยอมออกจากเคหะสถานของผู้อื่น โดยไม่มีเหตุอันสมควร
ก.สามีไปหาภริยาในบ้านของผู้อื่นที่ให้ภริยาพักอาศัย
ข.โจทก์ห้ามจำเลยเข้าบ้าน แต่จำเลยฝ่าฝืนเข้าไปในบ้านโจทก์ โดยอ้างว่าได้รับความยินยอมจากบุตรสาวโจทก์
ค.เข้าไปบ้านผู้เสียหายเวลา 1 นาฬิกา โดยบุตรสาวของผู้เสียหายนัดให้เข้าไปและพาขึ้นเรือน
ง.เข้าไปปรับความเข้าใจกับผู้เสียหายและทวงอาวุธปืนที่เคยให้ยืม
84.ท่านเข้าใจความผิดฐานลหุโทษไม่ยอมบอกหรือแกล้งบอกชื่อหรือที่อยู่อันเป็นเท็จว่าอย่างไร
ก.การไม่ยอมบอกหรือแกล้งบอกชื่อหรือที่อยู่อันเป็นเท็จเมื่อเจ้าพนักงานถาม
ข.การไม่ยอมบอกชื่อหรือแกล้งบอกชื่อหรือที่อยู่อันเป็นเท็จเมื่อผู้ถูกถามถูกจับกุมเพราะกระทำความผิดอาญา
ค.การไม่ยอมบอกหรือแกล้งบอกชื่อหรือที่อยู่ของตนเองหรือของผู้อื่นเมื่อเจ้าพนักงานถามเพื่อปฎิบัติหน้าที่ตามกฏหมาย
ง.การไม่ยอมบอกหรือแกล้งบอกชื่อหรือที่อยู่ของตนเองเมื่อเจ้าพนักงานถามเพื่อปฎิบัติหน้าที่ตามกฏหมาย
85.ข้อใดเป็นการพาอาวุธที่จะเป็นความผิดลหุโทษ
ก.การพาไปในเมืองโดยซ่อนไว้ในย่าม ข.การพาไปในหมู่บ้านโดยพกไว้ใต้เสื้อคลุม
ค.การพาไปในสถานที่ที่สำคัญทางศาสนาโดยซ่อนเร้น ง.การพาไปในชุมชนที่จัดให้มีขึ้นเพื่อการรื่นเริงโดยซ่อนเร้น
86.คันนาอยู่ในที่ดินของดำซึ่งคนทั่วไปใช้เป็นทางเดินมาตั้งแต่ 40 – 50 ปี ก่อนตกมาเป็นของดำ บนคันนามีต้นผลไม้และต้นกล้วยที่ดำปลูกเอาไว้ ดังนี้ ทางเดินนี้จะเป็นทางเดินสาธารณะหรือไม่
ก.เป็นทางเดินสาธารณะเพราะคนทั่วไปใช้มาหลายปีแล้ว
ข.ทางเดินนี้ไม่ใช่ทางสาธารณะเพราะการที่ปลูกต้นผลไม้ และต้นกล้วยไว้แสดงว่าเจ้าของหวงแหนใช้สิทธิครอบครองอยู่
ค.ทางเดินนี้ไม่ใช่ทางเดินสาธารณะเพราะอยู่ในเขตที่ดินของดำ
ง.ทางเดินนี้เป็นทางเดินสาธารณะเพราะแม้อยู่ในที่ดินของดำ แต่ปล่อยให้คนทั่วไปใช้มานานแล้วก่อนตกเป็นของดำ
87.ดำแกล้งกระพือข่าวว่าเทวดามาเข้าฝันบอกเหตุว่าในอีก 7 วันข้างหน้าจะมีน้ำท่วมโลก ทำให้ประชาชนตื่นตกใจ ดำมีความผิดฐานใดหรือไม่
ก.ไม่มีความผิดเพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิด
ข.เป็นข่าวไร้สาระที่วิญญูชนไม่พึงเชื่อถือ การกระทำของดำจึงถือเป็นความผิดไม่ได้
ค.ดำมีความผิดฐานแกล้งบอกเล่าความเท็จให้เลื่องลือจนเป็นเหตุให้ประชาชนตื่นตกใจ
ง.ดำมีความผิดฐานแกล้งบอกเล่าความเท็จให้เลื่องลือ
88.ดำกระทำความผิดลหุโทษในกรณีใด ดังต่อไปนี้
ก.เกิดเพลิงไหม้ ดำจึงไปยืนดู แต่ไม่ช่วยดับเพลิง
ข.เกิดเพลิงไหม้ ดำไปยืนดูเจ้าของบ้านขอให้ช่วย แต่ดำไม่ช่วย เพราะมีนัดต้องรีบไป
ค.เกิดเพลิงไหม้ ดำจึงไปยืนดู เจ้าพนักงานขอให้ดำช่วยดับเพลิง แต่ดำดูเพลิน จึงไม่ได้ยินและไม่ทราบว่าถูกขอให้ช่วยดับเพลิง ดำจึงไม่ช่วย
ง.เกิดเพลิงไหม้ ดำจึงไปยืนดู เจ้าพนักงานขอให้ดำช่วยดับเพลิง แต่ดำกลัวร่างกายสกปรก จึงไม่ช่วย
89.ดำแสดงตนเป็นผู้วิเศษแอบอ้างว่าสามารถทำให้คนมีความสุขได้ตลอดชีวิต ถ้าผู้นั้นมาให้ดำพ่นน้ำหมากใส่ศรีษะ มีคนหลงเชื่อแตกตื่นมาหาดำมากมาย ซึ่งดำก็พ่นน้ำหมากให้โดยไม่คิดเงิน ดังนี้ ดำมีความผิดฐานแกล้งบอกเล่าความเท็จให้เลื่องลือจนเป็นเหตุให้ประชาชนตื่นตกใจหรือไม่
ก.ผิดเพราะเป็นการบอกเล่าความเท็จจนผู้คนแตกตื่น
ข.ผิดเพราะการกระทำของดำเป็นการปลุกปั่นให้ประชาชนหลงเชื่อในสิ่งที่งมงาย
ค.ผิดเพราะการกระทำของดำเป็นการกระทำที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน
ง.ไม่ผิดเพราะดำกระทำโดยไม่หวังผลประโยชน์
90.กรณีใดต่อไปนี้ที่ไม่ถือว่าผู้กระทำมีความผิดความผิดฐานขุดหลุมหรือราง หรือปลูกปักหรือวางสิ่งของเกะกะไว้ในทางสาธารณะ
ก.ขุดคูกั้นทางหลวงโดยมิได้รับอนุญาต ข.ปลูกต้นไม้ลำภูที่ชายเลนน้ำท่วมถึง
ค.เอาหินมากองในทางสาธารณะโดยได้รับอนุญาตเมื่อการอนุญาตสิ้นสุดลงแล้วไม่มาขนหินออกไป
ง.ขุดหลุมไว้กลางถนนโดยได้รับอนุญาตแล้วแต่ไม่ติดสัญญาณเตือนเพื่อป้องกันอุปัทวเหตุ
91.กรณีใดดังต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นการใช้กำลังทำร้าย
ก.เอาปืนยิง ข.เอายาพิษปนในอาหารให้รับประทาน ข.เทอุจจาระรดจากที่สูง ง.ถ่ายปัสสาวะรด
92.คำกล่าวใดในข้อต่อไปนี้ ไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่น
ก.อีดอกทอง ข.อ้ายหน้าด้าน ค.อีหน้าเลือดไม่ปราณีคนจน ง.อีหน้าหมู อีหน้าหมา
1.ง. 2.ก 3.ก 4.ก 5.ง 6.ค. 7.ก 8.ข 9.ก 10.ข
11.ง 12.ง 13.ก 14.ค 15.ค 16.ง 17.ค 18.ง 19.ข 20.ค
21.ง 22.ข 23.ข 24.ก 25.ก 26.ง 27.ค 28.ค 29.ก 30.ง
31.ข 32.ข 33.ก 34.ข 35.ง 36.ง 37.ข 38.ค 39.ก 40.ก
41.ข 42.ข 43.ค 44.ง 45.ก 46.ข 47.ก 48.ค 49.ง 50.ค
51.ง 52.ข 53.ข 54.ก 55.ข 56.ง 57.ค 58.ก 59.ข 60.ก
61.ข 62.ง 63.ก 64.ข 65.ข 66.ข 67.ง 68.ค 69.ง 70.ก
71.ง 72.ค 73.ก 74.ง 75.ก 76.ข 77.ง 78.ค 79.ข 80.ข
81.ง 82.ก 83.ข 84.ง 85.ง 86.ข 87.ค 88.ง 89.ก 90.ค 91.ข 92.ค
หน้าที่เข้าชม | 284,977 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 221,164 ครั้ง |
เปิดร้าน | 22 ธ.ค. 2560 |
ร้านค้าอัพเดท | 30 ส.ค. 2568 |